วัดเป็นสถานที่ "ฟอกใจ" ไม่ใช่สถานที่ "ฟอกเงิน"

วัดทั่วประเทศ 

เป็นสถานที่ "ฟอกใจ" ไม่ใช่สถานที่ "ฟอกเงิน"

บัณฑิตพึงรับฟังรับรู้และหาข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ควรฟังต่อๆกันมา

เรามารู้จักเส้นทางการฟอกเงินกัน คือ

"ประเด็นของฟอกเงิน อยู่ที่ว่า เงินนั้นต้องกลับไปหาเจ้าของเงินที่ไม่บริสุทธิ์นั้น
แต่วัดเมื่อรับปัจจัยมาแล้ว เงินดังกล่าวไม่ได้กลับไปแก่ผู้ถวาย แต่ไปใช้ประโยชน์ในทางศาสนา เช่นค่าก่อสร้าง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าภัตตาหาร การศึกษา และโครงการต่างๆมากมาย เพื่อ ""สร้างคนให้เป็นคนดี""
ดังนั้น ต่อให้คน ได้เงินมาโดยไม่ถูกกฎหมายก็จริง เมื่อนำมาถวายวัด ก็""ไม่ใช่การฟอกเงิน"" แต่เป็นการ ""ทำบุญ"" ในพุทธศาสนา
ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ห้ามทำ แต่ท่านสอนว่า วัตถุทานที่ได้มาโดยบริสุทธิ์นั้น ย่อมดีกว่า
และคนที่ใจบาปหาเงินโดยวิธีทุจริต มักไม่สามารถละความตระหนี่ออกจากใจ โดยการทำบุญได้หรอกครับ
ยกเว้นเขาจะ ""กลับใจ"" ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่จากคนที่เคยทำชั่ว จะเปลี่ยนใจมาทำดีได้
ซึ่งแม้ ""ที่มา"" ของเงินจะตรวจสอบไม่ได้ แต่ ""ที่ไป"" ของปัจจัยนั้น คงตรวจสอบได้ไม่ยาก ว่าปัจจัยนั้น เอาไปใช้งานพระศาสนาจริงๆ 

ขอย้ำ

"วัด" เป็น "บุญสถาน" อันศักดิ์สิทธิ์ 


เป็นสถานที่"ฟอกใจ" 
กุลบุตรกุลธิดาที่เข้ามาวัดให้เป็นคนดีของสังคม คือคิดดี พูดดี และทำดี รักบุญกลัวบาป มีความกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อผู้มีพระคุณ

  

"ขอย้ำ"

 "วัด "
 ไม่ใช่สถานที่ ”ฟอกเงิน” เด็ดขาด

 "พระพุทธศาสนากำลังมีภัย"

พวกเราชาวพุทธทุกคนควรลุกขึ้นมาทำความดี ทำกิจของพุทธศาสนิกชนที่เขาพึงกระทำกัน คือ หมั่นบำเพ็ญบุญ ทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิเจริญภาวนาและสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรให้เป็นอุปนิสัย และกระจายความดีนี้สู่สังคมรอบข้าง   พระพุทธศาสนาประเทศไทยก็จะพ้นภัย  
ชาวโลกก็จะพบสันติสุขอย่างแน่นอน

  

กราบอนุโมทนาบุญและเอาบุญมาฝากทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ค่ะ สาธุ

กัลฯจินตนา  บุญเลี้ยง